(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/03/7-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A5-696x364.jpg)ถ้าคุณเป็นคนๆหนึ่งที่ถูกใจ คิดมาก (https://freelydays.com/13411/)ฟุ้งซ่าน ขี้ไม่สบายใจ กับพฤติกรรมไปซะทุกเรื่อง
จนถึงทำให้ต้องอึดอัดใจอยู่เป็นประจำเรามีแนวทางมาชี้แนะที่จะช่วยให้คุณลดความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ คิดมาก หรือ เพ้อเจ้อลงได้
1. พิจารณาความนึกคิดของตัวเอง
ข้อสำคัญที่สุดของวิธีการทำเป็น การปลดปล่อยให้ความคิดของคุณลอยผ่านไป
แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกฝนสมาธิแบบเจริญก้าวหน้าสติเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณ
หยุดหมกมุ่นกับเรื่องในอดีตได้ โดยให้ท่านทดลองสังเกตการณ์ความคิดของตน
มองว่าตนเองกำลังไม่สบายใจอยู่กับเรื่องอะไร แล้วก็ จะไขปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน
ทดลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วดูความคิดของตนดู คุณจะรู้เลยว่าความคิดมันไร้ขอบเขตจริงๆ
รวมทั้งในช่วงเวลาที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแต่ว่าจะห่วยลงเท่านั้น แต่จิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
และก็ เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีช่องว่างในการรับฟังสิ่งที่ประณีตและวิจิตรบรรจงเพิ่มขึ้น
2. เขียนความนึกคิดของตนเอง
อีกแนวทางนึง ที่จะช่วยหยุดความนึกคิดฟุ้งซ่านของคุณ ก็คือ การระบายให้กับคนที่มีมุมมองวิธีคิดไม่เหมือนกัน
ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้แนวทางเขียนระบายความคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้
ด้วยเหตุว่า การเขียนทำให้พวกเราคิดอย่ างเป็นระบบมากยิ่งกว่าเดิม ถ้าเกิดคุณเก็บความคิดพวกนั้นไว้แต่ในหัว
นอกเหนือจากมันจะไปสุมกันจนเป็นภูเขามันยังมีผลให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น
3. กำหนดขณะสำหรับ "การหยุดใช้สมอง"
การกำหนดเวลา "หยุดใช้สมอง" ช่วยห้ามไม่ให้คุณหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งมากจนเกินความจำเป็น
ดังเช่น การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆข้างหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลาเข้านอนหลับ
มีข้อเสนอแนะว่าให้แบ่งเวลาไว้ราวๆ 20 นาทีต่อวัน สำหรับในการสะท้อนความนึกคิดของตน
ข้างในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตนเองตื่นตระหนก ครุ่นคิดพิจารณา ฟุ้งซ่านได้เต็มกำลังตามอยาก แล้วเมื่อหมดเวลา
ก็ให้เปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์กว่า ถ้าเกิดคุณเริ่มคิดมากนอกตอนที่กำหนดไว้เมื่อไหร่
ก็ให้เตือนตัวเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดในช่วงเวลาที่กำหนดดีมากกว่า
4. เบี่ยงเบนความคิดของตนเอง
ฟังดูง่ายๆแต่ว่าแท้จริงการจดจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมนี่มันย ากนะ
ลองออกกำลังกายหรือเล่นเกมดูเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์แล้วก็ร่างกาย
ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนก็เห็นด้วยกับแนวทางแบบนี้หมายถึงให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความพอใจของคุณ
ซึ่งต้องเป็นกิจก ร ร มที่ใช้ทั้งยังร่างกาย ความนึกคิด รวมทั้ง การร่วมเล่นกับคนอื่นๆ ได้แก่ เทนนิส หรือการเดินเล่นกับสหายสักคน
5. โฟกัสที่สิ่งที่ทำเป็นในตอนนี้
อีกหนึ่งทางแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือกระทำอย่ าไปโฟกัสในสิ่งที่คุณจำต้องทำ สิ่งที่ยังมิได้ทำ หรือ
แม้กระทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง แต่ให้พุ่งความสนใจไปในที่สิ่งที่สามารถทำได้ในตอนนี้ก็พอเพียง
ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กเพียงใดก็ตาม แล้วก็ลงมือทำมันซะ อย่างงี้ทุกครั้งที่พวกเรากลุ้มอกกลุ้มใจ
ถึงปัญหาในเรื่องใดๆเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นตัวเป็นตนเพิ่มมากขึ้น
6. เคารพความเห็นของตนเอง
เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนไม่ยอมตกลงใจส่วนหนึ่งอาจเกิดขึ้นจากคุณไม่เชื่อว่าตนเองจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้อง
ควรศึกษาที่จะเคารพนับถือความคิดเห็นของตนยิ่งคิดมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งลังเลในความนึกคิดของตนมากเท่านั้น
7. คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่บกพร่องได้
คือเรื่องธรรดาที่จะตื่นตระหนกว่าคุณเลือกงานผิด แต่งงานกับคนที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง หรือแม้แต่ขับขี่รถกลับบ้านผิดทาง
แต่ข้อผิดพลาดก็มิได้นำมาซึ่งหายนะเสมอ แถมยังเป็นช่องทางให้ได้ศึกษาและก็เติบโตขึ้นด้วย
คุณไม่ต้องกังวลกับความบกพร่องเลย รวมทั้ง ให้รู้เรื่องไว้ว่าความคิดเห็นหรือความรู้ของ
คุณนั้นมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามกาลเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบแล้วก็เป็นอิสระจากข้างในอย่ างตามที่เป็นจริง
ขี้กังวล
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/