ต้นสังกัด โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง

[Jenny937]

ต้นสังกัด โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง ข้างหลังประกาศปลดจากพรีเซ็นเตอร์ กระทั่งถึงมิได้ทำผิดคำสัญญา ย้ำเกิดเรื่องในอดีตกาล-ไม่ตรงข้ามข้อบังคับ

วันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ ชั้น21 ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ คุณสุจรรยา วิลเลกัส ผู้อำนวยการข้างข้อบังคับ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ผู้แทน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด อธิบายกรณีฟ้องดำเนินคดี บริษัท UGO Nutrition จำกัด ข้างหลังบริษัทดังกล่าวมาแล้วข้างต้นร่อนหนังสือประกาศปลด โอม ภวัต จิตต์สว่างดี ผู้แสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี เลิกหน้าที่หน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ โอม ภวัต ผู้แสดงนำชายซีรีส์ดัง เป็นหลักสำคัญถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการกระทำในอดีตกาล โดยเจ้าตัวได้ออกมายอมรับว่าเคยบูลลี่และก็แกล้งเพื่อนพ้องที่เป็นออทิสติก และได้ขออภัย รู้สึกไม่ถูก แล้วก็รู้สึกเสียใจ ยอมรับว่าเรื่องคราวนั้นเป็นบทเรียนราคาสูง ซึ่งอุตสาหะปรับปรุงแก้ไขตัวให้ดีขึ้นมาตลอด

ต่อมาแบรนด์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้ร่อนหนังสือประกาศปลดพระเอกชายหนุ่ม โดยมีรายละเอียดประเด็นหลักว่า "ประกาศการหยุดหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นใจความสำคัญในโลกออนไลน์ตอนหลายเดือนมาแล้ว ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนิ่งดูดาย และก็ได้เป็นข้างติดต่อสังกัดเดิมของศิลปินอย่างจริงจังหลายที แต่แรกเริ่มขึ้นตรงต่อเพิกเฉยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญโดยตลอด"

"UGO Nutrition ให้ความสำคัญกับความรัก ค่าความทัดเทียม เกียรติยศความเป็นมนุษย์ และก็ความรับผิดชอบเราจึงตกลงใจยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด" ดังที่เสนอข่าวสารไปแล้วโดย คุณสุจรรยา พูดว่า "ที่มาในวันนี้ก็เพราะว่าในกรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศยุติหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ไม่มีเหตุผลอันควรจะสำหรับการที่จบบทบาทพรีเซ็นเตอร์อันนั้น รวมถึงทางจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ไม่ได้มีการไม่ทำตามสัญญาหรือผิดกติกาใดๆกับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะแบบนั้นทำให้บริษัทและก็ศิลปินก็คือคุณโอม ได้รับความย่ำแย่ เสียหายความโด่งดัง"



"นับจากมีกรณีพูดถึงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเกิดเรื่องในอดีตของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการกระทำที่มิได้ขัดกับข้อบังคับนะคะ ต้องบอกแบบงี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยเฉยเมย พวกเราไม่เคยนิ่ง พวกเรามีการติดต่อพูดจากับทาง UGO มาตลอด มีการสนทนาเพื่อหาข้อตกลงด้วยกัน"

"เราสนทนากันมาหลายหน จนถึงวันก่อนที่ทาง UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วย โดยเหตุนี้การที่ UGO มีประกาศเลิกบทบาทพรีเซ็นเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ได้รับความเสียหาย ทางจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์และก็นักแสดงเลยต้องขอความเป็นธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษากิตติศัพท์และก็เกียรติภูมิของบริษัท รวมทั้งศิลปิน โดยเราคงจะจำเป็นต้องขอพึ่งทางขั้นตอนของศาลยุติธรรม เพื่อสงวนไว้ซึ่งสิทธิ์และก็ความทรุดโทรมในเรื่องของชื่อเสียงของบริษัท และก็ศิลปินต่อไปค่ะ"

เป็นได้หรือไม่ว่า จากกระแสข่าวที่เกิดสังกัดโอมมีผลเสียกับทางแบรนด์ จึงส่งผลให้ตัดสินใจเลิกหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ ถึงแม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แต่ว่าบางทีอาจจะผิดในทางของจริยธรรม? "อันนี้ทางพวกเราคงจะตอบไม่ได้ อาจจำต้องถามทาง UGO ค่ะ แม้กระนั้นในเงื่อนไขสัญญาไม่ได้มีกำหนดเกี่ยวกับหัวข้อนี้เอาไว้ ในเวลานี้ทางพวกเราดำเนินการฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องละเมิดค่าเสียหาย ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้อาจไม่สามารถพูดได้เนื่องจากเป็นข้อมูลในคดี"

ถ้าหากทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย? "จริงๆมันอยู่ในกระบวนการของทางศาล อย่างไรทางคู่กรณีอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมจำต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วจ้ะ กรรมวิธีการทางศาลจะต้องเจอกันอยู่แล้ว ถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบไม่ได้ พวกเรายังไม่รู้จัก เพราะเรายังมิได้รับการติดต่อมาค่ะ"

การที่ตัดสินใจฟ้องเป็นเพราะว่าทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม? "เขามิได้ร่อนจดหมายนะคะ จู่ๆเขาก็ประกาศ ในขณะที่พวกเราสนทนากันตลอดบ่อยมา กระทั่งก่อนวันประกาศพวกเราก็ยังมีการคุยกัน แต่ว่าอยู่ดีๆเขาก็ประกาศ ซึ่งทางพวกเราไม่เคยทราบค่ะ"

ภายหลังที่เขาประกาศไปแล้ว บริษัทได้รับผลกระทบเยอะแยะไหม? "ก็จากที่สื่อออกข่าวสารก็มีผลเสียกับชื่อเสียงของน้องและก็บริษัทค่ะ (จากดราม่านี้ยังมีผลต่อกับผลิตภัณฑ์อื่นๆหรืองานอื่นๆของโอมอีกไหม?) ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบค่ะ"

มองกระแสดราม่าของโอมยังไง เพราะเหตุว่าผู้คนจำนวนมากเห็นว่าบริษัทมิได้ออกมา Take Action อะไรเลย? "ทางบริษัทมองว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตกาลและก็เกิดเรื่องในวัยเด็ก โดยทางสถานที่เรียนก็ได้ลงโทษตามแบบแผนของโรงเรียน เขาได้รับการลงอาญาไปแล้ว น้องเองก็ได้ขออภัยไปแล้ว แล้วก็มันไม่ใช่เป็นเรื่องที่กระทำผิดต่อกฎหมายว่ากันแบบนั้นเถิด ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเรามิได้เฉย แต่ว่านี่เป็นเหตุผลอย่างที่กล่าวว่าเป็นเรื่องในอดีต แล้วก็เขาได้รับการลงทัณฑ์ตามวัยของเขา คือในขณะนั้นเขายังเด็กอยู่"

แต่คนก็ยังขุดเรื่องนี้ออกมาอีก เพราะว่าต้องการที่จะให้บริษัทออกมาบอกบ้าง? "เป็นอันนี้มีความคิดว่าในทางของคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เราอาจจะห้ามมิได้ว่าใครกันแน่จะคิดอย่างไร แม้กระนั้นในแง่ของบริษัทดูที่ความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นมนุษย์ค่ะ ซึ่งมันต้องมองจากข้อสรุปที่เกิดขึ้นมากกว่าที่จะไปวินิจฉัยตามกระแสสื่อสังคมจ้ะ"

เวลานี้ภาวะจิตใจของโอมเป็นอย่างไรกันบ้าง? "ก็อาจไม่ดีหรอกค่ะ (โอมโดนจู่โจมในโซเชียลเยอะ เขามาขอให้ดูแลเรื่องข้อบังคับไหม?) อันนี้ยังไม่ทราบเรื่องนะคะ เพราะหากพวกเราจะดูก็คงเป็นในแง่ของหัวข้อการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนหรือขัดกับข้อบังคับ ฝ่าฝืนสิทธิของน้อง เราถึงจะดูจ้ะ"

การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น กลัวคนจะคิดว่าค่ายปกป้องโอมเกินความจำเป็นไหม? "ต้องบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและคือเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างที่โล่งว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายยุติการเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ขึ้นกับกระแสสังคมจะวินิจฉัยจากข้อสรุปที่เกิดขึ้นค่ะ"
โอม ภวัต
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13731/