ชาวไทยเป็นจำนวนไม่น้อย เป็น “ตับแข็ง” ด้วยว่า เหตุผลใด

[Prichas]

ตามสถิติ โรคตับแข็ง เป็นมูลเหตุของการถึงแก่กรรมของมวลชนโลกราว 25,000 คนภายในแต่ละปี รวมทั้งถูกจัดให้เป็นมูลเหตุการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นมาจากโรคเป็นลำดับที่ 8ตับแข็ง มีต้นเหตุที่เกิดจากเยื่อตับถูกทำลายจากหลายสาเหตุอยู่ตลอดเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง เป็นพังผืดในเนื้อตับ ถ้ามิได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมจะแปลงเป็น

ตับแข็งท้ายที่สุด เมื่อเป็นโรคตับแข็ง ตับไม่สามารถที่จะดำเนินงานได้ปกติ นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆเป็นต้นว่า โรคดีซ่าน ท้องมาน อกสั่นขวัญหาย เลือดออกง่าย เส้นเลือดโป่งพองในหลอดทางเดินอาหาร ตับวาย โรคมะเร็งตับแล้วก็อาจเป็นไปได้ถึงแก่ความตายได้  โรคตับแข็งสามารถเกิดขึ้นได้เพราะมีเหตุจากหลายกรณี ยกตัวอย่างเช่น                                                                                 
[list=1]

• เชื้อไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง อย่างเช่น ไวรัสตับอักเสบบีรวมทั้งซี
• การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จำนวนมากและก็เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
• โรคท่อน้ำดีฝ่อตั้งแต่ระยะแรกเกิด (Biliary atresia)
• การได้รับยาบางอย่างหรือสมุนไพรบางประเภทที่ส่งผลต่อตับ
• ภาวะไขมันคั่งตับ เจอได้ทั่วไปในคนอ้วน หรือคนเจ็บเบาหวาน
• การมีสภาวะหัวใจทางด้านขวาล้มเหลวเรื้อรัง
• มีการอุดกั้นของหลอดโลหิตดำทางออกของตับ

   เมื่อเป็นตับแข็งจะรักษาได้เช่นใด                                                                                                     
[list=1]

• รักษาตามมูลเหตุปัจจัยที่นำไปสู่โรคตับ ยกตัวอย่างเช่น โรคตับจากดื่มแอลกอฮอล์ สมควรหยุดการดื่มแอลกอฮอล์ โรคตับจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและก็ซี สมควรจะรักษาด้วยยาขัดขว้างเชื้อไวรัส ไขมันพอกตับพึงควรควบคุมด้านการกินอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาลและก็ไขมัน ทำกายบริหารเป็นประจำ
• ดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทานอาหารครบกลุ่ม สารอาหารแล้วก็พลังงานเพียงพอ ไม่รับประทานอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และก็เลี่ยงยาที่ไม่มีความจำเป็น
• ควรเจอหมอตามนัดหมายบ่อย เพื่อเข้ารับการดูแลและรักษาภาวะแทรกซ้อนจากโรคตับ

 ในสมัยก่อนโรคตับแข็งไม่อาจจะรักษาให้หายสนิทได้ นอกจากการปลูกถ่ายตับกรณีที่โรคเป็นมากแล้ว แม้กระนั้นปัจจุบันพบว่าการเอาสาเหตุปัจจัยที่กระตุ้นให้ตับเสียหายออกไปได้ก็สามารถทำให้การทำงานของตับดีมากขึ้นได้ เป็นต้นว่า การใช้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสบีหรือซี การหยุดดื่มแอลกอฮอล์ การให้ยาขับเหล็กหรือทองแดง ฯลฯ