หนึ่งในอุปสรรคที่มีความสำคัญ มุมมองของสังคม

[dsmol19]

หนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่ "หลุดนักเรียน" จะต้องเผชิญคือ มุมมองจากสังคมที่มักตีตราแง่ลบ หลายๆคนเชื่อว่าการออกจากโรงเรียนหมายคือความไม่ประสบผลสำเร็จ หรือเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ ในขณะที่ตามความเป็นจริง คนกลุ่มนี้อาจมีความชำนาญเฉพาะที่สะดุดตารวมทั้งประสิทธิภาพที่ไม่ธรรมดา

ในโลกที่ยึดติดกับใบปริญญา การที่เด็กนักเรียนคนหนึ่งเลือกออกจากระบบการศึกษาเล่าเรียนบางทีอาจถูกเห็นว่าแตกต่าง หรือเปล่าเป็นที่ยอมรับ แต่พักหลังๆความคิดนี้เริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนที่ใครๆก็รู้จักระดับนานาชาติออกมาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง ดังเช่น Steve Jobs, Bill Gates หรือ Mark Zuckerberg ที่ออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อไล่ตามความฝัน จนกระทั่งกลายเป็นบุคคลสุดยอด

เรื่องราวเหล่านี้เป็นแรงจูงใจให้กับ "หลุดนักเรียน" ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย ว่าความเสร็จมิได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในห้องเรียน แต่ว่าสามารถกำเนิดได้จากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความพยายาม รวมทั้งความเก่งกล้าในการเสี่ยง

การเติบโตส่วนตัวจากการหลุดระบบ
สำหรับบางคน การออกจากโรงเรียนคือจุดเริ่มต้นของการศึกษาค้นพบตัวเอง การหลุดจากกรอบเดิมๆเปิดโอกาสให้สำรวจความพึงพอใจ ความสามารถ รวมทั้งความรู้ความเข้าใจในแบบที่ระบบการศึกษาอาจไม่เคยมองเห็น

ยกตัวอย่างเด็กนักเรียนที่ออกมาจากสถานที่เรียนเพื่อเดินตามทางศิลป์ ในห้องเรียนอาจรู้สึกอึดอัด แต่ว่าเมื่อออกมาแล้วกลับสามารถฝึกหัด พัฒนาความสามารถ แล้วก็ดำเนินงานสร้างสรรค์ได้อย่างมาก หลายๆคนในสายงานศิลปะ ดนตรี หรือดีไซน์ ต่างก็บรรลุเป้าหมายโดยไม่ต้องพึ่งวุฒิการศึกษาแบบเป็นทางการ

ในสายงานเทคโนโลยีหรือธุรกิจ การไม่มีวุฒิก็บางทีอาจไม่เป็นปัญหา ถ้าเกิดสามารถพิสูจน์ความสามารถได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ออกจากสถานศึกษาแล้วเรียนเขียนรหัสด้วยตัวเอง อาจก้าวไปสร้างบริษัทโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของตัวเองได้

นอกจากนี้ การออกจากสถานที่เรียนยังอาจเป็นช่องทางสำหรับในการเยียวยาทางจิต ผู้เรียนที่จำเป็นต้องออกจากระบบด้วยเหตุว่าถูกกลั่นแกล้ง มีปัญหาครอบครัว หรือปัญหาสุขภาพจิต อาจใช้เวลานี้ในการรักษาตัว ฟื้นฟูสภาพจิตใจ และก็ก้าวข้ามความเจ็บปวดในอดีต